นาซ่า องค์กรระดับโลกผู้อยู่เบื้องหลังเทคโนโลยีล้ำสมัย

นาซ่า องค์กรระดับโลกผู้อยู่เบื้องหลังเทคโนโลยีล้ำสมัย

                องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือเรียกสั้นว่า นาซ่า (National Aeronautics and Space Administration – NASA) ก่อตั้งขึ้นในวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2501 ตามรัฐบัญญัติการบินและอวกาศแห่งชาติ ถือเป็นหน่วยงานราชการของสหรัฐรับผิดชอบโครงการอวกาศ และงานวิจัยในห้วงอวกาศ ซึ่งรัฐบาลสหรัฐอเมริกาคอยจัดการ หรือควบคุมระบบงานวิจัยระหว่างฝ่ายพลเรือน และฝ่ายทหาร โดยในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 องค์การนาซ่าได้ประกาศภารกิจหลักว่าจะบุกเบิกอนาคตแห่งการสำรวจอวกาศ การค้นพบทางวิทยาศาสตร์ ทำงานวิจัยทางการบิน และอวกาศ มีคำขวัญว่า เพื่อประโยชน์ของคนทุกคน (For the benefit of all) เริ่มปฏิบัติงานอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2501 ประกอบด้วยห้องปฏิบัติการ 4 แห่ง มีพนักงานประมาณ 8,000 คน ซึ่งในช่วงแรกโอนมาจากคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านการบินแห่งชาติ (NACA) ซึ่งในขณะนั้นเป็นหน่วยงานวิจัยของรัฐที่มีอายุกว่า 46 ปีแล้ว

                โครงการในระยะแรกของนาซ่าเป็นงานวิจัยที่มีเป้าหมายเพื่อส่งมนุษย์ขึ้นไปกับยานอวกาศ โดยเป็นการดำเนินภายใต้แรงกดดันที่ต้องการแข่งขันกับสหภาพโซเวียต ซึ่งขณะนั้นเป็นช่วงสงครามเย็น นาซาเริ่มศึกษาความเป็นไปได้ที่มนุษย์จะใช้ชีวิตในห้วงอวกาศ ชื่อโครงการเมอร์คิวรี ต่อมาในวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2504 นักบินอวกาศ อลัน บี. เชเพิร์ด จูเนียร์ ได้กลายเป็นชาวอเมริกันคนแรกที่ขค้นไปในอวกาศ โดยการเดินทางด้วยยานฟรีดอม 7 เป็นภารกิจที่ใช้เวลานาน 15 นาที แบบไม่เต็มวงโคจร หลังจากนั้น จอห์น เกล็นน์ จึงได้กลายเป็นชาวอเมริกันคนแรกที่ทำการโคจรแบบรอบโลกในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2505 ใช้เวลาขึ้นบินนาน 5 ชั่วโมง ด้วยยานเฟรนด์ชิป 7

ที่มาของรูปภาพ www.pixabay.com/th/photos/cape-canaveral-ฟลอริดา-กระสวยอวกาศ-79355/

ศูนย์วิจัยหลักของ นาซ่า ที่มีภารกิจหน้าที่ ดูแลงานต่าง ๆ ในปัจจุบันนั้นมีอยู่ด้วยกัน 10 ศูนย์ ดังนี้

  1. ศูนย์การบินอวกาศกอดเดิร์ด (Goddard Space Flight Center) ตั้งอยู่ที่ Greenbelt, Maryland ทำหน้าที่ควบคุมยานสำรวจอวกาศของ นาซ่า และติดตามความคืบหน้าในการสำรวจโลก สำรวจระบบสุริยะ และเอกภพ
  2. ศูนย์การบินอวกาศมาร์แชลล์ (Marshall Space Flight Center) ตั้งอยู่ที่ Huntsville AL, Madison County ทำการพัฒนาระบบขนส่งทางอวกาศ และระบบขับดันต่าง ๆ
  3. ศูนย์การบินอวกาศสเตนนิส (Stennis Space Flight Center) ตั้งอยู่ที่ Mississippi ศูนย์ของนาซ่าที่ทำการวิจัยและทดลองระบบขับดันของจรวด Satturn V และควบคุมระบบการขับเคลื่อนยานอวกาศต่าง ๆ
  4. ศูนย์วิจัยเกลนน์ (Glenn Research Center) ตั้งอยู่ที่ Cleveland, Ohio ศูนย์ของนาซ่าที่ทำการพัฒนาระบบขับดัน และเทคโนโลยีการสื่อสารต่าง ๆ
  5. ศูนย์วิจัยเอมส์ (Ames Research Center) ตั้งอยู่ที่ Mountain View, California ทำการพัฒนาด้านไอที การออกแบบ และกระบวนการสร้างอากาศยาน การพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ และเทคโนโลยีด้านอวกาศ
  6. ศูนย์วิจัยแลงลีย์ (Langley Research Center) ตั้งอยู่ที่ Hampton, Virginia ทำการวิจัยของนาซ่าด้านอากาศยานและอวกาศ
  7. ศูนย์วิจัยการบินไดรเดน (Dryden Flight Research Center) ตั้งอยู่ที่ Los Angeles County, California ทำการวิจัยด้านการบิน
  8. ศูนย์อวกาศเคนเนดี (Kennedy Space Center) ตั้งอยู่ที่ Florida เป็นศูนย์วิจัยจรวดเพื่อส่งยานสำรวจออกไปนอกโลก
  9. ศูนย์อวกาศจอห์นสัน (Johnson Space Center) ตั้งอยู่ที่ Houston, Texas มีหน้าที่ฝึกนักบินอวกาศ และผู้ควบคุมกระสวยอวกาศ
  10. ห้องปฏิบัติการจรวดขับดัน (Jet Propusion Labolatory) ตั้งอยู่ที่ Pasadena, California ทำงานด้านการควบคุมยานสำรวจอวกาศต่าง ๆ ในระบบสุริยะ
นาซ่า

ที่ของรูปภาพ www.pixabay.com/th/photos/nasa-สหรัฐอเมริกา-ศูนย์อวกาศเคนเนดี-621411/

เทคโนโลยีของนาซ่า ที่นำใช้ในชีวิตประจำวัน

  1. อาหารแช่แข็งและอาหารแห้ง เนื่องจากนาซ่าจำเป็นต้องลดน้ำหนักสิ่งของต่าง ๆ ที่นำขึ้นไปในอวกาศให้เหลือน้อยที่สุด หนึ่งในนั้นคือก็คืออาหารต่าง ๆ สำหรับนักบิน แต่ต้องถนอมรักษาสารอาหารเอาไว้ให้ได้มากที่สุด โดยมีน้ำหนักเหลือเพียง 20% เท่านั้น
  2. คอมพิวเตอร์ไมโครชิพ คือการย่อขนาดคอมพิวเตอร์สมองกลให้อยู่ในขนาดพกพาแบบกระเป๋า เพื่อใช้เป็นระบบติดต่อพูดคุยระหว่างโลกและอวกาศ มีความจำเป็นมาก แต่ก็ต้องใช้พื้นที่ให้น้อยที่สุด ซึ่งในไมโครชิพนี้ได้เข้ามามีบทบาทต่อเครื่องมือ และอุปกรณ์ไฮเทคต่าง ๆ โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนด้วย
  3. เหล็กดัดฟัน อาจดูเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ไม่น่าเกี่ยวข้องกับนาซ่าแม้แต่น้อย แต่เนื่องจากกระบวนการสร้างจรวดขึ้นอวกาศนั้น ตัวยานจะถูกปลดออกเป็นปล้อง ๆ ในชั้นบรรยากาศซึ่งจำเป็นต้องใช้เหล็กที่เรียกว่า Nitinol ที่ทนต่อความร้อ นและสามารถดัดรูปได้ตามต้องการ ซึ่งวัสดุชนิดนี้ได้ถูกใช้เป็นส่วนผสมสำคัญของเหล็กดัดฟันแบบโปร่งใสอย่างในปัจจุบัน
  4. อาหารเด็ก ในระหว่างที่นาซ่าทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก หรือจุลินทรีย์ที่อยู่ในสาหร่ายสีเขียว (Algae) เพื่อพิสูจน์ว่าในอวกาศจะสามารถผลิตออกซิเจนได้เองหรือไม่ แต่งานวิจัยกลับค้นพบว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้มีสารอาหารที่จำเป็นต่อเด็ก ๆ ไม่ต่างจากน้ำนมแม่ และมีการนำความรู้ดังกล่าวไปพัฒนาเป็นอาหารเด็กที่ใช้มาจนถึงปัจจุบัน
  5. เครื่องมือไร้สาย เนื่องจากเมื่ออยู่ในอวกาศ การใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ไม่ควรมีสายไฟยาวระเกะระกะ และควรมีน้ำหนักเบา ใช้ง่าย พกพาได้สะดวก จึงเกิดเป็นเครื่องใช้ต่าง ๆ แบบไร้สายนั่นเอง
  6. แว่นตาที่ทนทานเป็นพิเศษ nasa ได้คิดค้นแว่นตาที่ได้รับการป้องกันจากชั้นพิเศษ เพื่อทนแรงกดอากาศมหาศาลที่เกิดขึ้นในช่วงการเปลี่ยนไปยังชั้นบรรยากาศนอกโลก เรียกว่า Direct Ion Deposition ซึ่งเป็นการนำชั้นเกราะบาง ๆ ที่ทำจากคาร์บอนแข็งแรงพิเศษหุ้มแว่นตาเอาไว้อีกชั้น ซึ่งเทคโนโลยีนี้ได้นำไปใช้ผลิตเลนส์แว่นตา
  7. โฟมที่นิ่มเป็นพิเศษ มีชื่อเรียกว่า Viscoelastic Polyurethane Foam หรือ Memory Foam ด้วยความนุ่มจนไม่เหลือร่องรอยเมื่อสัมผัส ซึ่งได้ถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของเบาะนั่ง หรือหมอนหนุนนอน ที่เกิดจากงานวิจัยของนาซ่าที่ต้องการเบาะชนิดพิเศษสำหรับใส่ไว้ในหลอด Capsule ที่ช่วยป้องกันไม่ให้นักบินอวกาศเกิดการบาดเจ็บจากแรงกระแทกในระหว่างขึ้นไปยังอวกาศนั่นเอง
  8. ใยผ้าทนความร้อนสูง (กันไฟได้) จากโศกนาฏกรรมที่เกิดจากการลุกไหม้ของยานอวกาศ Apollo หมายเลข 1 ที่คร่าชีวิตนักบินอวกาศไปถึง 3 คน นาซ่าจึงคิดค้นใยผ้าที่ทนทานต่อการลุกไหม้มาใช้เป็นวัสดุหลักของชุดนักบินอวกาศ รวมถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ของนักบิน ซึ่งในปัจจุบันได้นำมาให้พนักงงานดับเพลิง และนักแข่งรถใช้เพื่อความปลอดภัยด้วย
  9. จอยบังคับเกมส์ เกมเมอร์ที่เล่นจากเครื่องเล่นเกมคงคุ้นเคยกับอุปกรณ์นี้ดี โดย นาซ่า ได้คิดค้นจอยบังคับเพื่อใช้ควบคุมการลงจอดของยานสำรวจนั่นเอง
  10. พื้นรองเท้า ต้นแบบของพื้นรองเท้าที่สามารถรองรับน้ำหนักตัว และแรงกระโดดได้ดีนั้น ถูกคิดค้นขึ้นมาโดย NASA เพื่อช่วยให้เวลานักบินอวกาศสามารถเดินในสภาวะไร้แรงโน้มถ่วงได้ดีนั่นเอง Ufabet เว็บหลัก
นาซ่า

ที่มาของรูปภาพ www.pixabay.com/th/photos/nasa-สหรัฐอเมริกา-ฟลอริดา-1640510/

Credit by : ufabet